ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Viber

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Hippo ได้รับข่าวดีจากผู้พัฒนาแอพ Viber ว่าในเดือนกุมภานี้ Viber จะเพิ่มออพชั่นให้ส่ง SMS ฟรี อีกไม่นานเกินรอ เราก็จะได้ประหยัดค่าส่ง SMS กันอีก ก็ต้องรอดูกันหน่อยว่า เค้าจะมีข้อจำกัดอะไรบ้างรึเปล่าสำหรับออพชั่นนี้

และในเดือนมีนาจะมีเวอร์ชั่นสำหรับ Android ใครที่มีเพื่อนใช้ Android และไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ iPhone แล้วล่ะก็ Viber อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยคุณประหยุดค่าโทรศัพท์ได้นะคะ

Viber โทรฟรี ทั่วโลก

Viber (ver 1.1.0) on 1.26.11

Free

Link to iTunes

Viber กลายเป็นอีกแอพหนึ่งที่คนพูดถึงกันเยอะ ตั้งแต่ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว แอพนี้ก็คงจะอยู่ในไอโฟนของใครหลายๆ คนไปแล้ว ที่เพิ่งจะมาพูดถึง เพราะเวอร์ชั่นแรกที่ออกมา ยังรู้สึกว่า ยังไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ แต่พอมีอัพเดทมาแล้ว ก็คิดว่า ควรค่าแก่การพูดถึงบ้างแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่ง Social Networking app ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ iPhone ได้พอสมควร โดยเฉพาะคนที่ชอบเม้าท์กระจาย แต่รายได้ต่ำ (ก็คงไม่ต่ำเท่าไหร่ ถ้ามีตังค์ซื้อ iPhone) เอาเป็นว่า อยากประหยัดค่าใช้จ่ายบ้างก็แล้วกัน

คอนเซปง่ายๆ แอพนี้ก็เหมือนเป็นแอพโทรศัพท์ธรรมดา มีข้อแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องมีแอพนี้อยู่แล้ว ถึงได้จะฟรีจริงๆ อย่างที่โฆษณา ถ้าไม่มีก็คิดราคาตามปกติอยู่ดี

ข้อดี

• แอพนี้อยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องคอยเปิดแอพทิ้งไว้ให้เปลืองแบตเหมือน Skype
• หน้าเมนูก็คุ้นตาอยู่แล้ว เพราะทำเหมือนกับแอพโทรศัพท์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้หรือหัดใช้
• ไม่ต้องเสียเวลานั่ง add contact เพิ่ม เพราะตัวแอพจะรู้ทันที ถ้าเบอร์ใน list ใช้ viber โดยมี icon ขึ้นให้หลังชื่อ
• เวอร์ชั่นใหม่ มีตัวบอกคุณภาพสัญญาณให้เห็นเวลาโทรอีกด้วย
• โทรได้ทั่วโลก ขอแค่มี iPhone กับ viber เป็นพอ

ข้อเสีย

• ถึงเวอร์ชั่นใหม่จะปรับสัญญาณเสียงมาแล้ว ก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่สัญญาณอินเตอร์เนตเต็ม ทำให้มีปัญหาสายหลุดบ่อย เสียงขาดหาย หรือไม่ได้ยินเสียงเลย (ว่าเค้ามากไม่ได้ ของเค้าฟรี)
• ใช้ได้เฉพาะกับเครื่อง iPhone เท่านั้น ข้ามเผ่าพันธุ์ยังไม่ได้ และต้องลง viber ทั้งคนโทรเข้า โทรออก

แนะนำ

• อย่าลืมว่า ถ้าอยากคุยกับเพื่อนที่อยู่คนละประเทศ ต้องเซฟเบอร์แบบ + รหัสประเทศด้วย
• add favorite ไว้จะทำให้ง่ายต่อการโทร เพราะเวลาเปิดแอพ contact list จะมาทั้งหมดเลย เสียเวลาเลื่อนดู

สิ่งที่น่าจะปรับปรุง

• เพิ่ม Facetime ให้คนใช้ iPhone 4 หน่อยจะได้สู้กับ Tango หรือ Skype ได้
• ปรับปรุงสัญญาณให้ดีขึ้นกว่านี้
• เพิ่มออพชั่นให้เลือกริงโทนเองได้

บอลล้มกลิ้ง Bubble Ball ของเด็กม.2 ชิงตำแหน่งที่หนึ่ง Top Free

เด็กม.2 ล้มอาณาจักรนกยั๊วะได้แล้ว บทความจาก All Things Digital รายงานว่าเด็กชายอายุ 14 ปี ล้มตำแหน่งที่หนึ่งของ Angry Birds Seasons จาก Top Free ของ Apple เรียบร้อยแล้ว Bubble Ball ของ โรเบิร์ต เนย์ เด็กม. 2 จากรัฐยูท่าห์ ขึ้นอันดับหนึ่งตั้งแต่ปลายอาทิตย์ที่แล้ว คุณน้องโรเบิร์ตใช้เวลาแค่เดือนกว่าในการเขียนเกมส์นี้จากชุดพัฒนาซอฟท์แวร์ของ Ansca Mobile’s Corona วิธีเล่นก็ง่ายๆ แค่ให้ลูกบอลสีชมพูมันไหลผ่านฉากไปเรื่อยๆ (ไม่ใช่แค่ iPhone นะคะ น้องคนนี้เค้าทำไว้ให้สำหรับ Android ด้วย) หลังจากออกสู่ตลาดวันที่ 29 ธันวา 53 ก็มีตัวเลขโหลดเกมส์ไปแล้วถึง 1.5 ล้านครั้ง คุณน้องบอกว่า เค้าแปลกใจมากที่มีคนโหลดไปเล่นเยอะขนาดนี้ แล้วยังเสริมว่าจะเพิ่มฉากให้เล่นกันฟรี แต่จะทำเกมส์เพิ่มขายเป็น in-app purchase ให้ต่อไป

ถึงเกมส์นี้อาจจะสู้ Angry Birds ไม่ได้ แต่ความสำเร็จของเกมส์นี้ก็ได้สร้างสนามรบย่อยๆ ให้กับบรรดานักพัฒนาแอพทั้งหลายเข้าแล้ว เพราะมียอดโหลดถึง 4 แสนในวันเดียวเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

แปลจาก 8th Grader’s ‘Bubble Ball’ Ubseats ‘Angry Birds’ on Apple’s Top Free Apps List โดย คาเล็บ จอห์นสัน วันที่ 17 มกราคม 2554

8th Grader's 'Bubble Ball' Unseats 'Angry Birds' on Apple's Top Free Apps List 

ต้องบอกว่า HipApp ทึ่งในความเก่งของน้องเค้าจริงๆ ค่ะ อายุแค่ 14 ถ้าเป็นเด็กไทย ก็ยังใช้คำนำหน้าเป็นเด็กชายอยู่เลย ทำได้เก่งขนาดนี้ ถือว่าเยี่ยมมาก น้องเค้าก็ประสบความสำเร็จมากซะด้วย ขอสนับสนุนเลยค่ะ แวะไปโหลดมาลองเล่นกันสบายเลยนะคะ น้องเค้าทำมาให้เล่น ฟรีค่ะ

SBSettings อีกหนึ่งสาเหตุของการเจลเบรคไอโฟน

Jailbreaking iphone เป็นการทำให้ iPhone เครื่องนั้นสามารถลงแอพที่ไม่ได้ซื้อจาก iTunes ได้ (ศัพท์เทคนิคเพิ่มเติมดูได้ที่ Link iOS Guru ค่ะ) หลายคนอาจจะเจลเบรคเพื่อลงแอพเถื่อน จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าแอพซักกะตังค์ แต่ Hippo ไม่แนะนำค่ะ และได้กล่าวถึงไปแล้วในบลอคก่อนหน้านี้ “ซื้อแอพจริงทำไม??” แต่อีกหลายคน รวมถึง Hippo ด้วย เจลเบรคเพื่อจะลงแอพเจ๋งๆ จากซีเดีย (Cydia) แหล่งศูนย์รวมแอพคุณภาพที่ Apple ไม่ยอมให้ขายใน iTunes และ หนึ่งในนั้นก็คือ SBSettings และ Activator ซึ่งจะลงมาพร้อมกันเลย

SBSettings เป็นแอพควบคุมการทำงานของระบบใน iPhone (อาจจะเพราะสาเหตุนี้มั้ง Apple ถึงไม่ยอมให้ขาย เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนระบบการทำงานของเครื่อง ทำให้ต้องมานั่งแก้ปัญหาตามทีหลัง เพราะแค่นี้คนซื้อก็ล้นร้าน Apple ทุกวันอยู่แล้ว) มันก็คล้ายๆ Settings ของ iPhone นั่นแหละค่ะ แต่ว่าทำอะไรได้มากกว่ากันเยอะเลย

• สามารถเลือกปิด-เปิด Edge, 3G, Wifi, Bluetooth, และ process การทำงานของแอพได้ (ที่ยังมีปัญหาอยู่หน่อย ก็คงจะที่ไม่สามารถปิดระบบ Edge ของเมืองไทยได้ ไม่รู้ว่าระบบสัญญาณดีเกินไป หรือว่าตั้งใจมาผลาญเงินเราก็ไม่รู้ สัญญาณ Edge ท่านติดตลอดเวลา SBSettings ถึงกะเอาไม่รู้ ที่รู้เพราะว่าเคยโดนมากับตัวค่ะ)
• จะเลือกซ่อนแอพที่มีอยู่ในเครื่องก็ทำได้ เราอาจจะมีแอพที่เราไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรามี หรืออาจจะเบื่อแอพบางตัว เห็นแล้วเกะกะหน้าจอ แต่ยังไม่อยากลบ ก็สามารถ Hide icon ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ตัวแอพก็จะซ่อนอยู่ ไม่มาให้เห็นให้วุ่นวายใจ อยากจะเอากลับมาใช้ใหม่ ก็เข้าไปเซตกลับมาได้
• เลือกแอพที่เราใช้บ่อย ๆ (หรือไม่อยากให้ใครมาเห็นง่าย ๆ) ใส่ไว้ใน dock ของ SBSettings ได้เลย
• สามารถตั้ง Activator สำหรับ lock screen หรือคำสั่งอื่นๆ ได้ตามต้องการ เพื่อถนอมปุ่มที่มีอยู่แค่ 2 ปุ่ม โดยการให้ทำแตะหน้าจอแทน มีหลากหลายวิธีให้เลือกสรร ตามสะดวกเลยค่ะ ว่าชอบแบบไหนกัน โดยเฉพาะปุ่มปิด-เปิดเครื่อง/ล๊อคเครื่องเนี่ย สมควรถนอมเลยค่ะ เพราะเคยเห็น iPhone เจ๊ง เพราะปุ่มนี้มาแล้ว
• อีกข้อสำคัญเลย คือ สามารถลง Add-on สำหรับปิดแอพทุกอย่างที่รันในแบคกราวน์ได้ด้วยคลิกเดียว กับ RemoveBackground หาได้ใน Cydia เลยหลังจากลง SBSettings ไปแล้ว หลังจากที่ Apple ออก iPhone 4 มาพร้อมระบบ multi-tasking เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ แต่ระบบปิดแอพของเค้า ก็ยังดูไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ (อย่างน้อยก็ในความคิดของ Hippo) เพราะต้องมา Double-click ปุ่ม Home กดแอพค้างไว้ และเลือกลบทีละแอพ ดูลำบากซะเหลือเกิน วันดีคืนดี เปิดไว้เป็นสิบๆ แอพ ก็ต้องมานั่งปิดทีละตัว เหนื่อยค่ะ เสียเวลาด้วย RomoveBackground เลยดูเป็นทางออกที่ดีในการปิดแอพเลยล่ะค่ะ อีกอย่างง่าย ๆ ก็พวกสวิทช์ปิดเปิด Ultrasn0w ที่ Hippo ไม่ได้ใช้ตลอดเวลาซึ่งมันทำให้ถนอมแบทด้วยค่ะ

การเจลเบรคไม่เป็นการผิดกฏหมายนะคะ แต่ทำให้เสียประกัน เพราะทางบริษัทจะถือว่าเราได้ดัดแปลง iPhone ไปแล้ว ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบกับความเสียหาย แต่จริงๆ แล้วถ้าเครื่องมีปัญหาอะไรก็แค่ Restore แล้วเอากลับไปให้แอปเปิ้ลเค้าก็ไม่รู้แล้วค่ะ แต่เจลเบรคมา ก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาทำให้เครื่องป่วยร้ายแรงเลย เอาเป็นว่าอย่าเล่นพิเรนท์มากก็ละกันค่ะ ที่จะผิดกฏหมาย คือ การเอาแอพของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือซื้อให้ถูกต้องตามกฏหมาย เรียกง่ายๆ คือ ใช้แอพเถื่อนนั่นแหละค่ะ